ไบโอเมตริกส์เพื่อประสบการณ์เดินทางรูปแบบใหม่

Deliverables

Biometrics, CUPPS, APPS

Industry

การบิน

"

SKY ICT ขับเคลื่อนนวัตกรรมไบโอเมทริกส์ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อทุกจุดสัมผัส ให้การยืนยันตัวตนรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัย ค้นพบการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยให้สนามบินทำงานคล่องตัวขึ้นและผู้โดยสารพึงพอใจยิ่งกว่าเดิม

"

ภาพรวมโครงการ

SKY ICT พัฒนาระบบ Biometric Identification หรือระบบพิสูจน์ตัวตนด้วยใบหน้า เพื่อสร้างประสบการณ์เดินทางแบบไร้สัมผัส (Touchless Journey) ให้กับผู้โดยสารในสนามบินหลักทั่วประเทศไทย ผ่านแนวคิด One-ID ที่ใช้ “ใบหน้าเพียงครั้งเดียว” เพื่อผ่านทุกจุดบริการ ตั้งแต่เช็กอิน จุดคัดกรอง ไปจนถึงประตูขึ้นเครื่อง


ระบบนี้ทำงานร่วมกับ CUPPS – Common Use Passenger Processing System ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีภาคพื้นดินที่ SKY ICT พัฒนาครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่เช็กอินด้วยพนักงานและเครื่องบริการตนเอง ไปจนถึงระบบตรวจสอบผู้โดยสารและประตูขึ้นเครื่องอัตโนมัติ

ความท้าทาย

ขั้นตอนเดินทางในสนามบินต้องใช้เอกสารหลายอย่าง เช่น หนังสือเดินทางและบัตรโดยสาร ทำให้เกิดคอขวดในหลายจุดบริการ จำนวนผู้โดยสารในประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องต้องการระบบที่รวดเร็ว ปลอดภัย และรองรับปริมาณได้มาก นอกจากนี้หลังช่วงโควิด ความต้องการลดการสัมผัสและเพิ่มความปลอดภัยด้านสุขอนามัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญ อุตสาหกรรมการบินต้องการระบบยืนยันตัวตนที่แม่นยำและมีความปลอดภัยสูง ขณะเดียวกันต้องใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้โดยสาร

ผลงานที่ SKY ICT พัฒนา

One-ID Biometric System

ผู้โดยสารลงทะเบียนใบหน้าเพียงครั้งเดียว ซึ่งข้อมูลจะถูกสร้างเป็น Travel Token เพื่อใช้แทนเอกสารต่าง ๆ ทำให้ขั้นตอนเช็กอิน คัดกรอง และขึ้นเครื่องเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องแสดงเอกสารซ้ำ

ผสานการทำงานกับแพลตฟอร์ม CUPPS

โซลูชัน Touchless ภายในสนามบินที่ใช้ในสนามบินมีดังนี้

  • CUTE – ระบบเช็กอินที่เคาน์เตอร์ เป็นระบบอำนวยความสะดวกในการเช็คอินผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันสายการบินในลักษณะ Common Use ทำให้สายการบินหลายแห่งสามารถใช้เคาน์เตอร์ร่วมกันตามมาตรฐานสากล เพิ่มประสิทธิภาพในการเช็คอินและตรวจสอบบัตรโดยสารก่อนขึ้นเครื่อง
  • CUSS – ระบบเช็กอินด้วยตนเอง เป็นระบบ Self-Service Kiosk อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารเช็คอินด้วยตนเอง โดยเริ่มจากสแกนพาสปอร์ต กรอกหมายเลขบัตรโดยสารหรือเลขสมาชิกสะสมไมล์ ระบบจะเชื่อมต่อกับสายการบินเพื่อตรวจสอบข้อมูลและพิมพ์บัตรโดยสาร หากผู้โดยสารต้องการโหลดกระเป๋า ระบบจะพิมพ์ Baggage Tag ให้ผู้โดยสารติดกระเป๋าเองและนำไปที่จุด Self-Bag Drop
  • CUBD – ระบบโหลดสัมภาระอัตโนมัติ เมื่อผู้โดยสารมาถึง Self-Bag Drop ผู้โดยสารสามารถสแกนบัตรโดยสารและสแกน Bag Tag เพื่อติดและโหลดกระเป๋า ระบบช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการสัมภาระของผู้โดยสาร
  • PVS – ระบบตรวจสอบและยืนยันตัวตนผู้โดยสาร ใช้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยภายในสนามบิน และช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของสายการบินและตัวแทนสายการบิน ระบบสามารถติดตามผู้โดยสารภายในสนามบิน และคัดกรองการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ตามเงื่อนไข เช่น การจำกัดพื้นที่สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศ หรือสิทธิ์เข้าห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสาร Business และ First Class เป็นต้น
  • SBG – ระบบประตูขึ้นเครื่องอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการ Boarding ของผู้โดยสาร โดยทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Biometric เพื่อตรวจสอบความตรงกันระหว่างใบหน้าของผู้โดยสารและข้อมูลบนบัตรโดยสาร หากข้อมูลถูกต้อง ประตูจะเปิดอัตโนมัติ หากไม่ตรง ผู้โดยสารต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีช่องทาง Boarding แบบ Manual สำรองกรณีระบบมีปัญหา
  • Automated Biometric Identification ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล เช่น ใบหน้าและดวงตา เพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน ระบบจะเก็บข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอน Check-In ในรูปแบบ One ID ทำให้ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารยืนยันหลายชนิด เพียงสแกนใบหน้าที่จุด Check Point ระบบจะตรวจสอบข้อมูลทันที ช่วยให้กระบวนการเดินทางรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น เป็นหนึ่งในวิธียืนยันตัวตนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

 

เฟสการใช้งานของระบบทั้งหมด

  • 1 พ.ย. 2567 – เริ่มใช้กับผู้โดยสาร เที่ยวบินภายในประเทศ
  • 1 ธ.ค. 2567 – ขยายสู่ผู้โดยสาร ต่างประเทศ

มาตรฐานความปลอดภัยข้อมูล

ระบบพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐาน PDPA และแนวทางด้านความปลอดภัยสากลเพื่อคุ้มครองข้อมูลสําคัญของผู้โดยสาร

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่เกิดขึ้นจริง

  • เพิ่มความรวดเร็ว – ลดขั้นตอนซ้ำซ้อนเพราะไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารหลายครั้ง
  • ลดการสัมผัส – รองรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขอนามัยและความปลอดภัย
  • ประสบการณ์ผู้โดยสารที่ราบรื่นกว่าเดิม – เดินทางสะดวกขึ้นโดยใช้ “ใบหน้าเป็นบอร์ดดิ้งพาส”
  • รองรับปริมาณผู้โดยสารจำนวนมาก – ระบบถูกใช้งานในสนามบินหลัก 6 แห่งของ AOT ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่
  • ยกระดับภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการบินไทย – ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Smart Airport และ Touchless Society อย่างเป็นรูปธรรม

สิ่งที่เราต้องการพัฒนาในอนาคต

  • ขยายบริการ Touchless ให้ครอบคลุมการเดินทางและโครงสร้างพื้นฐานด้านอื่นในอนาคต
  • ผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ Smart Airport ครบวงจรในประเทศ
  • นำเทคโนโลยี AI, Data, IoT เข้ามาเสริมประสิทธิภาพ ecosystem
  • รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสร้างประสบการณ์การเดินทางที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีมาตรฐานระดับโลก
Share

ติดต่อเรา

เราจะเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคม ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น